วันจันทร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2551

คำอธิบายรายวิชา

คำอธิบายรายวิชา ความหมาย และวิวัฒนาการของระบบปฏิบัติการ บทบาท หน้าที่ของระบบปฏิบัติการ การจ่ายงานหรือการจัดสรรหน่วยประมวลผล การบริหาร และการจัดการหน่วยความจำ การจัดคิวงานและการจัดสรรทรัพยากร การจัดการข้อมูลและการแสดงผลระบบแฟ้ม การควบคุม การคืนสู่สภาพเดิม

แนะนำตัวเอง

ชื่อ พัชรี โยธา
ชื่อเล่น เนียง
รหัสนักศึกษา 5112407103
เบอร์โทร 0848340346
เพื่อนสนิท
ออยและกิ่ง

วันอังคารที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

การปรับแต่ง Registry


<< เทคนิคการปรับแต่ง Registry >>
เขียนโดย คุณ Amaging

โชว์ Background แบบเต็มๆด้วยการซ่อน Desktopเรียก Regedit ขึ้นมา แล้วไปที่ [HKEY_CURRENT_USER\Ssoftware\Microsoft\Windows\CurrentVersion\Policies\Explorer] คลิกขวา เลือก New >> DWORD Value แล้วตั้งชื่อว่า NoDesktop ให้ Double Click ขึ้นมา แล้วใส่ค่า Value Data เป็น 1 หากต้องการยกเลิก ก็เข้าไปลบ KEY ที่ได้สร้างเอาไว้ออก หรือเปลี่ยนค่าเป็น 0 และ Restart เครื่องซ่อนหน้า Background Setting เรียก Regedit ขึ้นมา แล้วไปที่ [HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Windows\CurrentVersion\Policies\System] คลิกขวา เลือก New >> DWORD Value แล้วตั้งชื่อว่า NoDispBackgroundPage ให้ Double Click ขึ้นมา แล้วใส่ค่า Value Data เป็น 1 หากต้องการยกเลิก ก็เข้าไปลบ KEY ที่ได้สร้างเอาไว้ออก หรือเปลี่ยนค่าเป็น 0 และ Restart เครื่องซ่อนหน้า Appearance Settingเรียก Regedit ขึ้นมา แล้วไปที่ [HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Windows\CurrentVersion\Policies\System] คลิกขวา เลือก New >> DWORD Value แล้วตั้งชื่อว่า NoDispAppearancePage ให้ Double Click ขึ้นมา แล้วใส่ค่า Value Data เป็น 1 หากต้องการยกเลิก ก็เข้าไปลบ KEY ที่ได้สร้างเอาไว้ออก หรือเปลี่ยนค่าเป็น 0 และ Restart เครื่องซ่อนหน้า Display Settingเรียก Regedit ขึ้นมา แล้วไปที่ [HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Windows\CurrentVersion\Policies\System] คลิกขวา เลือก New >> DWORD Value แล้วตั้งชื่อว่า NoDispSettingsPage ให้ Double Click ขึ้นมา แล้วใส่ค่า Value Data เป็น 1 หากต้องการยกเลิก ก็เข้าไปลบ KEY ที่ได้สร้างเอาไว้ออก หรือเปลี่ยนค่าเป็น 0 และ Restart เครื่องซ่อนหน้า Screensaver Settingเรียก Regedit ขึ้นมา แล้วไปที่ [HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Windows\CurrentVersion\Policies\System] คลิกขวา เลือก New >> DWORD Value แล้วตั้งชื่อว่า NoDispScrSavPage ให้ Double Click ขึ้นมา แล้วใส่ค่า Value Data เป็น 1 หากต้องการยกเลิก ก็เข้าไปลบ KEY ที่ได้สร้างเอาไว้ออก หรือเปลี่ยนค่าเป็น 0 และ Restart เครื่องซ่อน Device Managerเรียก Regedit ขึ้นมา แล้วไปที่ [HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Windows\CurrentVersion\Policies\System] คลิกขวา เลือก New >> DWORD Value แล้วตั้งชื่อว่า NoDevMgrPage ให้ Double Click ขึ้นมา แล้วใส่ค่า Value Data เป็น 1 หากต้องการยกเลิก ก็เข้าไปลบ KEY ที่ได้สร้างเอาไว้ออก หรือเปลี่ยนค่าเป็น 0 และ Restart เครื่องซ่อน Drive ไม่ให้คนอื่นเห็นเรียก Regedit ขึ้นมา แล้วไปที่ [HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Windows\CurrentVersion\Policies\Explorer] คลิกขวา เลือก New >> DWORD Value แล้วตั้งชื่อว่า NoDrives ให้ Double Click ขึ้นมา เลือกใส่ค่าแบบ Decimal แล้วใส่ค่า Value Data เป็นค่าตัวเลขตาม Drive ที่ต้องการให้ซ่อนดังนี้หากต้องการซ่อนหลายไดรว์พร้อมกัน ก็นำค่าของแต่ละไดรว์มาบวกกัน เช่น ต้องการซ่อนไดรว์ A: D: และ F: ก็ใส่ค่าเท่ากับ 41 เป็นต้น หากต้องการยกเลิก ก็เข้าไปลบ KEY ที่ได้สร้างเอาไว้ออก และ Restart เครื่องซ่อนไอคอน Network Neighbourhoodเรียก Regedit ขึ้นมา แล้วไปที่ [HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Windows\CurrentVersion\Policies\Explorer] คลิกขวา เลือก New >> DWORD Value แล้วตั้งชื่อว่า NoNetHood ให้ Double Click ขึ้นมา แล้วใส่ค่า Value Data เป็น 1 หากต้องการยกเลิก ก็เข้าไปลบ KEY ที่ได้สร้างเอาไว้ออก หรือเปลี่ยนค่าเป็น 0 และ Restart เครื่องกันไว้ไม่ให้ใครมาเพิ่ม Printerเรียก Regedit ขึ้นมา แล้วไปที่ [HKEY_CURRENT_USER\Ssoftware\Microsoft\Windows\CurrentVersion\Policies\Explorer] คลิกขวา เลือก New >> DWORD Value แล้วตั้งชื่อว่า NoAddPrinter ให้ Double Click ขึ้นมา แล้วใส่ค่า Value Data เป็น 1 หากต้องการยกเลิก ก็เข้าไปลบ KEY ที่ได้สร้างเอาไว้ออก หรือเปลี่ยนค่าเป็น 0 และ Restart เครื่องกันไว้ไม่ให้ใครมาลบ Printerเรียก Regedit ขึ้นมา แล้วไปที่ [HKEY_CURRENT_USER\Ssoftware\Microsoft\Windows\CurrentVersion\Policies\Explorer] คลิกขวา เลือก New >> DWORD Value แล้วตั้งชื่อว่า NoDeletePrinter ให้ Double Click ขึ้นมา แล้วใส่ค่า Value Data เป็น 1 หากต้องการยกเลิก ก็เข้าไปลบ KEY ที่ได้สร้างเอาไว้ออก หรือเปลี่ยนค่าเป็น 0 และ Restart เครื่องซ่อน My Pictures ตรง Start Menuเรียก Regedit ขึ้นมา แล้วไปที่ [HKEY_CURRENT_USER\Ssoftware\Microsoft\Windows\CurrentVersion\Policies\Explorer] คลิกขวา เลือก New >> DWORD Value แล้วตั้งชื่อว่า NoSMMyPictures ให้ Double Click ขึ้นมา แล้วใส่ค่า Value Data เป็น 1 หากต้องการยกเลิก ก็เข้าไปลบ KEY ที่ได้สร้างเอาไว้ออก หรือเปลี่ยนค่าเป็น 0 และ Restart เครื่องลบลูกศรที่ Shortcutเรียก Regedit ขึ้นมา แล้วไปที่ [HKEY_CLASSES_ROOT\lnkfile] คลิก Name ที่ชื่อว่า IsShortcut แล้วกดปุ่ม Delete เพื่อลบออกไป หรือ Double Click แล้วใส่ค่าเป็น Noแสดงไฟล์ Operating System ที่ซ่อนอยู่เรียก Regedit ขึ้นมา แล้วไปที่ [HKEY_CURRENT_USER\Ssoftware\Microsoft\Windows\CurrentVersion\Explorer\Advanced] คลิกขวา เลือก New >> DWORD Value แล้วตั้งชื่อว่า ShowSuperHidden ให้ Double Click ขึ้นมา แล้วใส่ค่า Value Data เป็น 1 หากต้องการยกเลิก ก็เข้าไปลบ KEY ที่ได้สร้างเอาไว้ออก หรือเปลี่ยนค่าเป็น 0 และ Restart เครื่องสรุป Command Lineคลิกขวาในพื้นที่ว่างๆบน Desktop ของคุณ หรือพื้นที่บริเวณว่างๆตรง Background ของคุณนั่นเอง และเลือกที่ New >> Shortcut ในช่อง Command line: ให้คุณเลือกข้อความจากด้านล่างนี้ไปใส่ตาม Shortcut ที่คุณต้องการจะสร้างC:\WINDOWS\RUNDLL32.EXE C:\WINDOWS\SYSTEM\USER.EXE,ExitWindows (สำหรับการสั่ง Shutdown)C:\WINDOWS\RUNDLL32.EXE C:\WINDOWS\SYSTEM\SHELL32.DLL,SHExitWindowsEx 2 (สำหรับการสั่ง Restart)C:\WINDOWS\RUNDLL32.EXE C:\WINDOWS\SYSTEM\SHELL32.DLL,SHExitWindowsEx 0 (สำหรับการสั่ง Logoff)สำหรับ Win Xpคลิกขาวบน Desktop เลือก New >> Shortcut จากนั้นพิมพ์ shutdown.exe -s -t 00 (สำหรับการสั่ง Shutdown)shutdown.exe -r -t 00 (สำหรับการสั่ง Restart)shutdown.exe -l -t 00 (สำหรับการสั่ง Logoff)Shortcut เดียว เปิดหลายโปรแกรมให้เปิด Notepad ขึ้นมาค้างเอาไว้ก่อน ต่อจากนั้นไป Copy ส่วนของ Target ของ Shortcut แต่ละตัวเข้ามาไว้ใน Notepad นี้ โดยวิธีการเข้าไป Copy Target ก็คือ ให้คลิกขวาที่ Shortcut ของโปรแกรมที่ต้องการจะให้มีการเปิด แล้วเลือก Properties และที่หัวข้อ Shortcut ก็จะพบกับส่วนของ Target: ให้ทำการ Copy ข้อความในส่วนนี้มาทั้งหมดเมื่อ Copy ได้เรียบร้อยแล้ว ให้กด Cancel ไป จากนั้นกลับมาที่ Notepad แล้วทำการวางข้อความ Target ที่ได้ Copy มาเอาไว้ใน Notepadข้อควรระวังในจุดนี้ก็คือ1. เวลานำมาวางใน Notepad ต้องเว้นบรรทัดในแต่ละ Target ด้วย มิเช่นนั้นจะถือว่าผิด2. ห้ามลบเครื่องหมายฟังหนู (") ออก ให้คุณใส่เอาไว้เช่นนั้น มิเช่นนั้นจะถือว่าผิดจากนั้นเมื่อเรียบร้อยแล้ว ให้ Save ข้อมูลต่างๆใน Notepad ตัวนี้เป็น Batch File ซึ่งวิธีการ Save เป็น Batch File ก็คือ ให้ Save ไฟล์นี้ให้มีนามสกุลเป็น .bat นั่นเอง โดยจะใช้ชื่อว่าอะไรก็ได้ สำหรับในตัวอย่างนี้ จะ Save เป็นไฟล์ชื่อว่า Test.bat โดยที่ระหว่าง Save ให้กำหนด Save as type: เป็น All Files (*.*) ด้วย มิเช่นนั้นชื่อไฟล์อาจจะมี .txt ต่อท้ายด้วย ก็จะทำให้ผิด และไฟล์ๆนี้สามารถ Save ไว้ที่ Directory ไหนภายในเครื่องก็ได้วิธีการทำให้สามารถคลิก Mouse ขวาได้ใน Web Site ที่มีการป้องกันซึ่งจะเป็นการปิด Active Scripting ไม่ให้ทำงานนั่นเอง แต่การปิด Active Scripting ควรปิดชั่วคราว ไม่ควรปิดไว้ตลอด เพราะว่าพวก Script ต่างๆในแต่ละ Web Site นั้น บาง Script ก็มีประโยชน์ช่วยอำนวยความสะดวกต่างๆ แต่บาง Script ก็ไม่มีประโยชน์ มีแต่ความน่ารำคาญ เพราะว่าถ้าปิดไม่ให้พวก Script ที่มีประโยชน์ทำงานนั้น มันก็จะกลายเป็นเรื่องไม่ดีไป บางทีอาจจะใช้งานสิ่งต่างๆใน Web Site ของเขาไม่ได้ไปเลยก็มี วิธีการปิด Active Scripting ทำได้โดยคลิกไปที่เมนู Tools >> Internet Options จากนั้นจะพบกับหน้าต่าง Internet Properties ซึ่งที่หน้าต่างนี้ ให้คลิกเลือกไปที่หัวข้อ Security และคลิกที่ Internet หนึ่งครั้ง และกดปุ่ม Custom Level. คราวนี้จะพบกับหน้าต่าง Security Settings เลื่อนลงมาที่ส่วนของ Scripting >> Active scripting และเลือกให้เป็น Disable แล้วกด OK และตอบ Yes ไปจนเสร็จ จำเป็นที่จะต้องกด Refresh หน้าเว็บนั้นๆด้วย และลองคลิก Mouse ขวาดู ก็จะเห็นว่าคราวนี้สามารถคลิกได้แล้ววิธี Download เพลง, หนังที่ปกติจะให้เปิดเล่นแบบ Onlineวิธีการโหลดเพลงที่ปกติจะให้เล่นแบบ Online ผ่าน Real Player มาเก็บไว้ที่เครื่องเลยนั้น สามารถทำได้โดย เริ่มต้นให้คลิกขวาตรง Link ใน Web ที่เอาไฟล์สำหรับเปิดเพลงนั้นๆ เลือกไปที่ Save Target As... และรอสักครู่ ต่อจากนั้นก็จะมีหน้าต่าง Save As ปรากฏขึ้นมา ให้ทำการ Save (ในขั้นตอนนี้จะได้ไฟล์ที่ 1 ชื่อ music8569.ram) และเมื่อเรียบร้อยแล้ว ให้ใช้ Notepad เปิดเจ้าไฟล์ๆนี้ขึ้นมาทันที ซึ่งหากไม่มีอะไรผิดพลาด ภายในไฟล์จะต้องเป็น URL ซึ่งอาจจะมีหลายๆ URL ก็เป็นไปได้ (หากภายในไฟล์ไม่มี URL แสดงว่า Link ที่ทำการคลิกขวาในข้อ 1 นั้นยังไม่ได้เป็น Link สุดท้าย) จะเห็นว่าไฟล์ที่ได้ทำการ Save Target As... มาเก็บไว้ที่เครื่องในตอนแรกนั้น มันจะบรรจุ URL จริงๆของไฟล์เพลง และคราวนี้เมื่อทราบ URL จริงๆของไฟล์เพลงนั้นแล้ว ก็สามารถทำการ Download ได้ (จะใช้โปรแกรมช่วยดาวน์โหลดก็ได้)วิธีการเพิ่มความเร็วให้กับ Start Menuเรียก Regedit ขึ้นมา แล้วไปที่ [HKEY_CURRENT_USER\Control Panel\Desktop] ต่อจากนั้นคลิกขวาที่ Folder ชื่อ Desktop นี้แล้วเลือก New >> String Value และให้เปลี่ยนชื่อเป็น MenuShowDelay เรียบร้อยแล้ว คลิกขวาแล้วเลือก Modify ที่ช่อง Value Data ให้คุณใส่เลข 1 ลงไป จากนั้นกด OK เรียบร้อยแล้ว Restart เครื่องใหม่วิธีการสร้าง Control Panel ขึ้นมาเป็นของตัวเองเปิดหน้าต่าง Control Panel ปกติขึ้นมาค้างไว้ก่อน สร้าง Folder ขึ้นมาใหม่ โดยให้ไปที่ File >> New >> Folder และให้คลิกที่ Folder ที่สร้างขึ้นมาใหม่นี้ให้เปิดออกมา พร้อมกับเอาเจ้าหน้าต่าง Control Panel จริงๆที่เปิดเอาไว้มาวางใกล้ๆ จากนั้นให้ลากเครื่องมือที่ต้องการจากใน Control Panel จริงๆนั้นมาใส่และตอบ Yes ได้เลย ซึ่งตรงนี้อยากได้เครื่องมืออะไรก็สามารถลากเข้ามาได้เลย ซึ่งเครื่องมือต่างๆที่ได้ลากเข้ามานี้ จะมีข้อความนำหน้าชื่อว่า Shortcut to ซึ่งสามารถเปลี่ยนมันเป็นชื่ออะไรก็ได้วิธีการทำ Start Menu ให้มี List ในแนวนอนเรียก Regedit ขึ้นมา แล้วไปที่ [HKEY_CURRENT_USER\Ssoftware\Microsoft\Windows\CurrentVersion\Explorer\Advanced] คลิกขวา เลือก New >> String Value แล้วตั้งชื่อว่า StartMenuScrollPrograms ให้ Double Click ขึ้นมาแล้วใส่ค่า Value Data เป็น False หากต้องการยกเลิก ก็เข้าไปลบ KEY ที่ได้สร้างเอาไว้ออกท่านใดที่กลับมาใช้ Office97 แล้วมีปัญหากับ Accessสำหรับท่านใดที่เคยลง Office 2000 และรู้สึกคุ้นเคยหรืออะไรก็แล้วแต่ ทำให้ต้องการกลับมาติดตั้ง Office 97 แทน ซึ่งการกระทำเช่นนี้ จะทำให้มีปัญหากับโปรแกรม Access 97 แน่นอน (แต่โปรแกรมอื่นๆสามารถใช้ได้ปกติ) คือจะมีข้อความว่า "Microsoft Access ไม่สามารถเริ่มต้นการทำงาน เนื่องจากไม่มีใบอนุญาต (License) สำหรับมันในเครื่องนี้"วิธีแก้ไขให้ทำดังนี้ คือว่าให้ค้นหาไฟล์ที่ชื่อ hatten.ttf จากเครื่อง ซึ่งปกติไฟล์นี้จะอยู่ที่ C:\WINDOWS\FONTS นั่นเอง จากนั้นลบไฟล์นี้ทิ้ง ต่อจากนั้นให้ทำการติดตั้งโปรแกรม Microsoft Office 97 ซ้ำอีกครั้งหนึ่ง และเพื่อความแน่นอน ก็น่าจะ Restart เครื่องด้วย คราวนี้ก็จะสามารถกลับมาใช้ Access 97 ได้อย่างไม่มีปัญหาแล้ววิธีการลงทะเบียนชื่อ ใน IRC อย่างถาวรขั้นแรกให้ใช้ Pirch Login และทำการ Connect เข้ามาให้เรียบร้อยก่อน วิธีในการลงทะเบียนคือ ให้พิมพ์คำว่า /msg nickserv register E-Mail แต่ตอนลงทะเบียน คุณต้องใช้ชื่อที่เราต้องการลงทะเบียนก่อน ถ้าเกิดว่ายังเป็น Guest????? อยู่ ก็ให้ทำการเปลี่ยนชื่อก่อน โดยพิมพ์ว่า /nick และตามด้วยชื่อที่ต้องการ จากในตัวอย่างนี้ ต้องการที่จะลงทะเบียนชื่อ TestRegister เอาไว้ โดยใช้ Password ว่า Test และ E-Mail คือ test@yahoo.com ก็ต้องเปลี่ยนชื่อตัวเองเป็น TestRegister ให้ได้ก่อน แล้วพิมพ์คำว่า /msg nickserv register test@yahoo.com และกด Enter ได้เลย และเมื่อทุกอย่างไม่มีอะไรผิดพลาด จะมีข้อความขึ้นมาว่า [NickServ] : The nickname TestRegister has now been registered to you. นั่นก็หมายความว่า ทำการจองชื่อ TestRegister เอาไว้ได้เรียบร้อยแล้ววิธีการต่อไปก็คือให้คุณทำการ Set Kill On โดยให้พิมพ์ว่า /msg nickserv set kill on จากนั้นกดปุ่ม Enter จะมีข้อความขึ้นมาว่า [NickServ] : Nickname Protection has been enabled for the nickname TestRegister ซึ่งก็หมายถึงว่า ชื่อของคุณนั้นถูกทำการ Protection เอาไว้เรียบร้อยแล้ววิธีในการยืนยันว่าชื่อเป็นของเรา เมื่อคุณเข้า IRC มาใหม่ หลังจากที่คุณทำการลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว และทำการ Set Kill On แล้วด้วย หากคุณหรือใครๆใช้ชื่อหรือ Nickname ว่า TestRegister เข้า IRC มาในครั้งต่อไป จะมีข้อความขึ้นมาว่า [NickServ] : This nickname is owned by someone else. Please choose another. [NickServ] : If this is your nickname, please use /NickServ IDENTIFY [NickServ] : You have 60 seconds to comply before your nickname is changed.ก็คือว่า ต้องทำการยืนยันชื่อภายใน 60 seconds โดยพิมพ์ว่า /msg nickserv identify อย่างในตัวอย่างนี้ ก็ต้องพิมพ์คำว่า /msg nickserv identify ก็เพราะว่า Password คือ test นั่นเอง และเมื่อกด Enter ก็จะมีข้อความ [NickServ] : Password accepted for the nick TestRegisterข้อแตกต่างของการตั้ง Set Kill On กับไม่ได้ Setถ้าไม่ได้ Set Kill On ไว้ เมื่อมีคนมาใช้ชื่อเรา เค้าก็จะใช้ชื่อเราได้จนกว่าเราจะมาทำการ Kill ชื่อ โดยการใส่คำสั่ง /ns ghost แต่ถ้าเรา Set Kill On ไว้ คนอื่นที่ใช้ชื่อของเรานั้น จะถูกเปลี่ยนชื่อภายใน 60 วินาทีสำหรับเทคนิคนี้ จะใช้กับ Server irc.webmaster.com ถ้าเป็น Microsoft irc.au.ac.th (server abac) ก็เปลี่ยนคำสั่งนิดหน่อย พิมพ์ว่า /msg nickserv register ไม่ต้องใส่ E-Mail แต่การยืนยันชื่อเหมือนกันกับ irc.webmaster.com เช่นเดิมการแก้ปัญหาลืม Password ใน WinRouteวิธีการแก้ไขก็คือ ให้คลิกขวาที่ Icon ของ WinRoute ตรงมุมขวาล่างของหน้าจอ และเลือกไปที่ Stop WinRoute Engine จากนั้นจะเห็นว่า Icon ของ WinRoute จะเปลี่ยนไปเป็นสถานะที่มีเครื่องหมายลบสีแดงทับอยู่ ต่อจากนั้นให้เปิด Regedit และไปที่ [HKEY_LOCAL_MACHINE\SOFTWARE\Kerio\WinRoute\User\0] ซึ่งเมื่อพบแล้ว ให้ลบคีย์ 0 นี้ทิ้ง จากนั้นให้คลิกที่คีย์ User และไปที่เมนู Registry >> Export Registry File เพื่อทำการ Export เก็บเป็น Registry File เอาไว้ต่อไปให้คุณย้อนขึ้นไปคลิกที่คีย์ชื่อ WinRoute และฝั่งขวาให้มองหา AdminUserAdded เมื่อพบแล้ว ให้ดับเบิลคลิกมันขึ้นมา แล้วแก้ Value Data เป็น 0 และกด OK คราวนี้ให้คุณทำการ Start The WinRoute Engine แล้วทำการดับเบิลคลิกที่ Icon ของ WinRoute ตรงมุมขวาล่างของหน้าจอขึ้นมา เพื่อทำการ Login โดยที่ช่อง Username นั้นก็ใส่คำว่า Admin เอาไว้เหมือนเดิม ส่วนช่อง Password ปล่อยเป็นว่างๆเอาไว้ ไม่ต้องใส่อะไร และกดปุ่ม OK ได้เลย ซึ่งหลังจากกด OK ก็จะเห็นได้ว่า สามารถทำการ Login เข้าไปใช้งาน WinRoute ได้ทันที โดยที่ไม่ต้องใส่ Password แต่อย่างใดแต่ยังไม่จบเพียงเท่านี้ คราวนี้จำเป็นที่จะต้องทำการ Stop The WinRoute Engine อีกครั้ง จากนั้นไฟล์ที่เรา Export เอาไว้ ให้ดับเบิลคลิกมันและตอบ Yes และ OK ได้ทันที เรียบร้อยแล้ว คราวนี้ก็ให้ทำการ Start The WinRoute Engine อีกครั้ง ใช้งานได้ตามปกติ และก็จะสามารถเข้าไปใช้งาน WinRoute ในส่วนของ Admin ได้แล้ว แต่ยังไงก็อย่าลืมเข้าไปเปลี่ยนหรือกำหนด Password ต่างๆใหม่ด้วย ที่เมนู Settings >> Accounts แล้วทีนี้ก็จำไว้ดีๆ อย่าลืมอีกปรับขนาดซิสเต็มรีสโตร์สามารถแก้ไขได้โดยเปิด Regedit และไปที่ [HKEY_LOCAL_MACHINE\SOFTWARE\Microsoft\Windows\CurrentVersion\StateMgr\Cfg\ReservedDiskSpace] และที่ [HKEY_LOCAL_MACHINE\SOFTWARE\Microsoft\Windows\CurrentVersion\StateMgr\ReservedDiskSpace] จากนั้นเปลี่ยนค่า Max และ Min เป็นค่าที่ต้องการโดยใช้ชนิดของข้อมูลแบบ DWORDปรับค่าคอนฟิคในการต่อเน็ตให้ดีที่สุดถ้าจะปรับแต่งค่าการรับข้อมูลของ RcvWindow และ DefaultTTL ให้ดีที่สุด ให้เปิด Regedit ขึ้นมา แล้วไปที่ [HKEY_LOCAL_MACHINE\System\CurrentControlSet\Services\VxD\MSTCP] แล้วลองหาหรือเพิ่มค่า DefaultRcvWindow ชนิด String Value เป็น 4288 และลองหาหรือเพิ่มค่า DefaultTTL ชนิด String Value เป็น 128 จากนั้น Save แล้วออกจากโปรแกรมแล้ว Restart ใหม่ปรับค่าเดียลอัพให้ดีที่สุดถ้าจะปรับแต่งค่าการรับข้อมูลของ Dialup ให้ดีที่สุด เพราะค่าของวินโดวส์ที่กำหดให้มานั้นไม่เหมาะสม ให้เปิด Regedit ขึ้นมา แล้วไปที่ [HKEY_LOCAL_MACHINE\System\CurrentControlSet\Services\Class\NetTrans] แล้วลองหาหรือเพิ่มค่า MaxMTU ชนิด String Value เป็น 576 และลองหาหรือเพิ่มค่า MaxMSS ชนิด String Value เป็น 536 จากนั้น Save แล้วออกจากโปรแกรมแล้ว Restart ใหม่เพิ่มค่าเซสชั่นในการเชื่อมต่อให้มากขึ้นในวินโดวส์นั้นกำหนดค่าสูงสุดของ HTTP Sessions ไว้จำกัดสำหรับ HTTP 1.0 เป็น 4 ซึ่งทำให้ควรเปิดหน้าต่างอินเตอร์เน็ตเอ็กพลอเรอร์ได้สูงสุด 4 หน้าต่าง แต่ถ้าใช้ HTTP 1.1 นั้นเป็น 2 ซึ่งยิ่งน้อยไปใหญ่ ถ้าคุณจะเพิ่มค่าก็ทำได้โดยเปิด Regedit ขึ้นมา แล้วไปที่ [HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Windows\CurrentVersion\Internet Settings] แล้วลองหาหรือเพิ่มค่า MaxConnectionsPerServer (สำหรับ 1.1) และ MaxConnectionsPer1_0Server (สำหรับ 1.0) เป็นค่าแบบ DWORD Value แล้วกำหนดค่าเป็น 8 ทั้งสองตัวก็ได้ปรับแต่งรีจีสเตอร์ให้ใช้บล็อคไฟล์ที่มีขนาดดีที่สุดถ้าจะปรับแต่งค่าของขนาดของไฟล์ในแต่ละบล็อคที่ดีที่สุด เพราะค่าของวินโดวส์ที่กำหดให้มานั้นไม่เหมาะสม ให้เปิด Regedit ขึ้นมา แล้วไปที่ [HKEY_LOCAL_MACHINE\SYSTEM\CurrentControlSet\Control\FileSystem] แล้วลองหาหรือเพิ่มค่า ContigFileAllocSize ชนิด DWORD Value เป็น 512 สำหรับค่าแบบ Decimal หรือเป็น 200 สำหรับค่าแบบ Hexเพิ่มแคชในการรีเฟรชหน้าจอเปิด Regedit [HKEY_LOCAL_MACHINE\SOFTWARE\Microsoft\Windows\CurrentVersion\Explorer] ใส่ค่าสตริงใหม่ลงที่หน้าต่างด้านซ้าย โดยเลือก Edit >> New >> String Value หรือแก้ไขค่า Max Cached Icons กำหนดค่าเป็น 819เพิ่มประสิทธิภาพดิสก์แคชแบบแมพแคชโดยปกติวินโดว์ส 98 จะใช้ส่วนของหน่วยความจำเป็นดิสก์แคช เพื่อเพิ่มความเร็วประสิทธิภาพกับระบบที่มีเมมโมรีมากกว่า 64 MB ของหน่วยความจำ โชคร้ายที่หน่วยความจำทั้งหมดที่ไม่ใช้สำหรับแอปพลิเคชั่น และซึ่งหมายถึงหน่วยความจำของจะน้อยกว่า 64 MB ของเครื่องคอมพิวเตอร์ และหน่วยความจำจะเชื่องช้า ถ้ามีโปรแกรมมากกว่าหนึ่งในการใช้ในคราวเดียว โชคดีที่สามารถระงับความสามารถอย่างนี้โดยการแก้ไขรีจีสเตอร์วินโดว์ส ใช้ Regedit จากนั้นให้ไปที่ [HKEY_LOCAL_MACHINE\System\CurrentControlSet\Services\VxD\VMM] คลิกขวาพื้นที่ว่างเปล่าในด้านขวาของวินโดว์ส และเลือก New แล้วเลือกเป็น Binary Value ใส่ MapCache และกด Enter โดยไม่ต้องใส่ค่าใดๆลบค่าเก่าในคำสั่ง Find ทิ้งเราสามารถลบค่าเก่าใน Find ได้โดยการเปิด Regedit ขึ้นมา แล้วไปที่ [HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Internet Explorer\Explorer Bars\{C4EE31F3-4768-11D2-BE5C-00A0C9A83DA1}\FilesNamedMRU] ในหน้าต่างด้านขวา ให้ลบค่าที่ไม่ต้องการออกลบค่าเก่าๆในคำสั่ง Run ทิ้งเปิด Regedit ไปที่ [HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Windows\CurrentVersion\Explorer\RunMRU] ที่หน้าต่างด้านขวา ลบค่าที่ไม่ต้องการออกลบค่าใน Address Bar เฉพาะค่าที่ต้องการไม่ลบทั้งหมดต้องการลบโดยปราศจากการเคลียร์ History ทั้งหมด เปิด Regedit ไปที่ [HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Internet Explorer\TypedURLs] และลบค่าที่ไม่ต้องการออกเอา Task Scheduler ออกTask Scheduler ถูกติดตั้งโดยอัตโนมัติในบางเวอร์ชั่นของวินโดว์ส และยังมีเมื่อติดตั้งอินเตอร์เน็ตเอ็กพลอเรอร์ สามารถที่จะลบมันออกจากระบบดังนี้เปิด Regedit ไปที่ [HKEY_LOCAL_MACHINE\Software\Microsoft\Windows\CurrentVersion\RunServices] ที่ค่า SchedulingAgent กำหนดเป็น mstask.exe เพียงลบค่าดังกล่าวออกไปเท่านั้นเมื่อ Windows Update ไม่สำเร็จควรทำอย่าไรวินโดวส์ ME อาจจะมีปัญหาขณะใช้ Windows Update เครื่องอาจจะค้างขณะดาว์นโหลดหรือติดตั้งมัน และบังคับให้รีสตาร์ทเครื่องใหม่ ซึ่งอาจจะทำให้ไม่ทราบว่าอัพเดทเรียบร้อยดีหรือยัง แต่ไม่เป็นไร ใน Windows Update ได้สร้างค่าชุดของคอนฟิคไฟล์เรียกว่า OEMx.INF สร้างขึ้นโดยอินเตอร์เน็ตเอ็กพลอเรอร์โดยบันทึกเซกชั่นต่างๆไว้ ให้ลบไฟล์ OEMx.INF ต่างๆนี้ทิ้งไป โดยไปที่ Start >> Find Files or Folders แล้วพิมพ์ OEM*.INF ช่องชื่อไฟล์ในไดเรกทอรี่ \Windows\Inf เมื่อค้นหาหมดแล้ว ขยายหน้าต่างให้เต็มจอ หาไฟล์ INF ที่มีขนาด 0 ไบต์ แล้วลบออกให้หมดเพิ่มความเร็วของ Registerเมื่อใช้วินโดวส์ไปแล้วรู้สึกช้าจากรีจีสตรี้ ให้ลองปรับแต่งรีจีสตรี้ด้วยตัวเอง โดยเปิดดอสพร้อมขึ้นมา แล้วพิมพ์ SCANREG /OPT จากนั้นนั่งรอวินโดวส์จะแพ็คข้อมูลให้ปรับแต่ง Cache สำหรับ Floppy Diskไปที่ System Properties และคลิกแถบ Performance และคลิก File System คลิกแถบ Removable Disk และเลือกค่า Enable write-behind caching on all removable disk drivesเพิ่มประสิทธิภาพ Hard Diskวินโดว์ 98 จะเห็นฮาร์ดดิสก์บนช่อง IDE อาจจะเพิ่มประสิทธิภาพของดิสก์ โดยไปที่ System Properties จากนั้นเลือกแถบ Device Manager แล้วเปิดส่วน Hard Disk Controller จะเห็นดีไวซ์คอนโทรลเลอร์อุปกรณ์ที่ด้านบนของรายการ (ที่เขียนว่า BUS MASTER Controller) จากนั้นเลือกปุ่ม Properties และเลือกแถบ Settings จากนั้นเลือก Both IDE Channels Enabledให้วินโดวส์ปิดงานที่ไม่มีการตอบสนองโดยอัตโนมัติถ้าต้องการให้ปิดงานที่ไม่มีการตอบสนองโดยอัตโนมัติ สามารถทำได้ดังนี้ โดยเปิด Regedit แล้วไปที่ [HKEY_CURRENT_USER\Control Panel\Desktop\AutoEndTasks] ให้แก้ไขค่าเป็น 1 แล้วแก้ค่า WaitToKillAppTimeout เป็นจำนวนวินาทีที่คุณต้องการ เช่นเปลี่ยนเป็น 10ให้วินโดวส์ใช้แรมให้หมดก่อนจึงค่อยใช้ Virtual Memory มา Swap Fileไปที่ Start >> Run พิมพ์ system.ini หาบรรทัดที่มีหัวข้อว่า [386Enh] แล้วพิมพ์คำว่า ConservativeSwapfileUsage=1 ต่อท้ายบรรทัดล่างสุด วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่มีแรมมากกว่า 128 ขึ้นไป เพราะมันจะเอาพื้นที่ของ Ram ไปทำ Cache วิธีนี้ทำให้ Com เร็วขึ้น 40% เลยทีเดียววิธีเก็บไฟล์ Windows Update ไว้ในเครื่องแบบที่อัพเดทอัตโนมัติมาลงเครื่อง พอครบร้อยเปอร์เซ็นต์ จะมีกรอบมาให้ Install อย่าเพิ่ง Install ให้ไป Copy มาก่อน โดยจะซ่อนอยู่ใน Program Files ให้โชว์ All Files และก็อปโฟลเดอร์ชื่อ WindowsUpdate มาไว้ก่อน แล้วค่อย Install เพราะเมื่อ Install แล้ว วินโดว์จะลบโฟลเดอร์นี้ออกไปแบบอัตโนมัติ ไฟล์ Update นี้สามารถเอาไปลงเครื่องอื่นได้ด้วย เคลียร์การจำการใช้งานใน Document ใน Start Menuเราสามารถเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานคอมพิวเตอร์ ไม่ให้ผู้อื่นรู้ว่าเราใช้งานอะไรบ้าง ทำได้โดยเปิด Regedit ไปที่ [HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Windows\CurrentVersion\Policies\Explorer] ที่หน้าต่างด้านขวา ให้หาหรือเพิ่มค่าชนิด DWORD Value แล้วใส่ชื่อเป็น ClearRecentDocsOnExit ดับเบิลคลิก ใส่ค่าเป็น 1เคลียร์ Bios ด้วยการ DebugStart >> Program >> Accesories >> MS-DOS Promptพอหน้าจอขึ้น C:\ ให้พิมพ์คำว่าDebug (Then the cursor change to - )- o 70 2e (โอ วรรค เจ็ดศูนย์ วรรค สองอี)- o 71 ff (โอ วรรค เจ็ดหนึ่ง วรรค เอฟเอฟ)- q (คิว)ตั้งเวลา Shutdown ใน Windowsใน WinMe สร้าง ShortCut ใน Scheduled Tasks แล้วให้รัน windows/rundll.exe;user.exe,exitwindowsใน WinXPใช้คำสั่ง [c:\windows\system32\]shutdown.exe [-s-r-l] [-t sec]-s = shutdown-r = restart-l = logoff-t = timeoutยกตัวอย่างเช่น shutdown.exe -s -t 60 นั่นหมายความว่าให้ Shutdown โดยนับถอยหลัง 60 วินาทีEnable/Disable Registry Editorวิธี Disable Registryเปิด Regedit ไปที่ [HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Windows\CurrentVersion\Policies\System] ที่หน้าต่างด้านขวา ให้หาหรือเพิ่มค่าชนิด DWORD Value แล้วใส่ชื่อเป็น DisableRegisrtyTools ใส่ค่าเท่ากับ 1วิธี Enable Registryเปิด Notepad สร้างไฟล์ Enable.reg ขึ้นมา แล้วเขียนตามนี้... REGEDIT4 [HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Windows\CurrentVersion\Policies\System]"DisableRegistryTools"=dword:00000000 เวลาใช้ให้ Double Click ที่ไฟล์ Enable.reg แล้วกด Yes การถอดรหัส Logon บนวินโดวส์เข้าไปที่ C:\Windows แล้วหาไฟล์ที่มีนามสกุลเป็น .pwl ถ้าต้องการที่จะทำลายรหัสทิ้งไปเลย ก็ให้ลบไฟล์นี้ทิ้งไปได้เลย แต่ถ้าต้องการจะเปลี่ยนรหัสแค่ชั่วครั้งชั่วคราว ก็ให้เปลี่ยนนามสกุลของไฟล์จาก .pwl เป็นชื่ออื่นๆอะไรก็ได้ แล้วเมื่อ Logon มาอีกที มันก็จะให้กรอกรหัสใหม่ลบรายชื่อโปรแกรมที่ตกค้างใน Add/Remove หลังจากลบโปรแกรมนั้นออกจากเครื่องแล้ว ไปที่ [HKEY_LOCAL_MACHINE\SOFTWARE\Microsoft\Windows\CurentVersion\Uninstall] แล้วลบโฟลเดอร์โปรแกรมที่ตกค้างออก (ที่จริงเรียกว่าซับคีย์ แต่ผมเรียกเป็นโฟลเดอร์ละกัน เข้าใจง่ายดี) ** สามารถแก้ไขชื่อโปรแกรมที่จะให้แสดงใน Add/Remove ได้ด้วย โดยเลือกโฟลเดอร์โปรแกรมที่ต้องการที่หน้าต่างด้านขวา หาคีย์ชื่อ DisplayName แล้วเปลี่ยนเป็นชื่อที่ต้องการ วิธีนี้ไม่ส่งผลใดๆกับโปรแกรมนะครับ สามารถ Remove โปรแกรมได้ตามปกติ เพิ่ม IE Auto Scan ปกติเมื่อพิมพ์ชื่อเว็บ ถ้าโดเมนผิด IE จะหาโดเมนที่ถูกได้ โดยเป็น .com, .org, .net และ .edu แต่เราสามารถเพิ่มโดเมนให้กับ IE ได้ โดยไปที่ [HKEY_LOCAL_MACHINE\SOFTWARE\Microsoft\Internet Explorer\Main\UrlTemplate] ที่หน้าต่างด้านขวา สร้างคีย์ชนิด String Value ตั้งชื่อเป็นตัวเลขต่อจากที่มีอยู่ เช่นถ้ามีถึง 4 ก็ใส่ชื่อเป็น 5 จากนั้นแก้ไขค่าคีย์ที่สร้างขึ้นมาใหม่ ใส่เป็น www.%s.xxx ถ้าต้องการนามสกุลอื่น เช่น .gov ก็เพิ่มคีย์ใหม่ แล้วแก้ไขค่าเหมือนข้างต้น แต่เปลี่ยนส่วนขยายเป็น .gov เป็นต้นเพิ่มรายการ Copy To และ Move To เมื่อคลิกขวาที่ไฟล์หรือโฟลเดอร์ไปที่ [HKEY_CLASSES_ROOT\AllFilesystemObjects\shellex\ContextMenuHandlers] สร้างโฟลเดอร์หรือซับคีย์ชื่อ Copy To และ Move To ที่หน้าต่างด้านขวาของซับคีย์ Copy To ใส่ค่า Default เป็น {C2FBB630-2971-11D1-A18C-00C04FD75D13} ที่หน้าต่างด้านขวาของซับคีย์ Move To ใส่ค่า Default เป็น {C2FBB631-2971-11D1-A18C-00C04FD75D13}จัดหมวดหมู่ให้มันไปอยู่แถวเดียวกับ Send Toไปที่ [HKEY_CLASSES_ROOT\CLSID] สร้างซับคีย์สำหรับ Copy To ชื่อ {C2FBB630-2971-11D1-A18C-00C04FD75D13} ที่หน้าต่างด้านขวา ใส่ค่า Default เป็น Microsoft CopyTo Service และสร้างคีย์ชนิด DWORD Value ใส่ชื่อ flags ดับเบิลคลิก แล้วใส่ค่าแบบ Hexadecimal เท่ากับ 1 สร้างซับคีย์ย่อยจากคีย์ {C2FBB630-2971-11D1-A18C-00C04FD75D13} ชื่อ InProcServer32 ที่หน้าต่างด้านขวา ใส่ค่า Default เป็น C:\WINDOWS\SYSTEM\SHELL32.DLL และสร้างคีย์ชนิด String Value ชื่อ ThreadingModel ดับเบิลคลิก ใส่ค่าเป็น Apartment สำหรับ Move To ก็ให้สร้างแบบเดียวกัน โดยสร้างซับคีย์จาก [HKEY_CLASSES_ROOT\CLSID] ใช้ชื่อเป็น {C2FBB631-2971-11D1-A18C-00C04FD75D13} ที่หน้าต่างด้านขวา ใส่ค่า Default เป็น Microsoft MoveTo Service นอกนั้นทำเหมือน Copy To เพิ่มประสิทธิภาพการคลิกขวาให้ IE เมื่อคลิกขวาที่หน้าเพจ รูปภาพ หรือข้อความที่เลือก จะมีตัวเลือกเพิ่มเข้ามาในเมนู (เลือกสร้างเฉพาะที่ต้องการได้ และไม่ต้องรีสตาร์ทก่อนใช้งาน) การสร้างนี้จะมี 2 ส่วน คือใน Registry และไฟล์ Html ขอเริ่มจาก Registry ก่อนละกัน จะได้อธิบายไปด้วยเลย การทำ Highlight ข้อความ เปิด Notepad พิมพ์ (หรือก็อป) เอาไปวาง REGEDIT4 [HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Internet Explorer\MenuExt\&Highlight] @="C:\\WINDOWS\\WEB\\highlight.htm" "contexts"=hex:10 แล้วเซฟ โดยเลือกในช่อง Type เป็น All Files ตั้งชื่ออะไรก็ได้ *.reg เช่น Highlight.reg บรรทัดแรกหมายถึงการสร้างคีย์ [HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Internet Explorer\MenuExt\&Highlight] โดยจะสร้างเฉพาะคีย์ใหม่ ในกรณีนี้ก็คือการสร้างซับคีย์ย่อยชื่อ &Highlight เพิ่มจากคีย์ MenuExt เครื่องหมาย & หน้าตัว H หมายถึงการทำช็อตคัทคีย์ให้เมนู Highlight โดยเมื่อลากคลุมส่วนที่ต้องการแล้วคลิกขวา สามารถกดแป้นอักษร h เพื่อทำ Highlight ข้อความ สามารถเปลี่ยนได้โดยต้องไม่ซ้ำกับเมนูอื่น เช่น ต้องการเปลี่ยนเป็นช็อตคัทเป็น g ก็ใส่เป็น Hi&ghlight เป็นต้น บรรทัดที่สอง เครื่องหมาย @ หมายถึงการสร้างคีย์ชนิด String Value ที่เป็น Default ของซับคีย์นี้ ในเครื่องหมายฟันหนูก็คือ Value Data ที่จะใส่ บรรทัดที่สามคือ การสร้างคีย์ในซับคีย์ &Highlight เช่นกัน แต่เป็นคีย์ชนิด Binary Value ชื่อ contexts มีการใส่ค่า Value Data แบบ Hexadecimal มีค่าเท่ากับ 10 (ข้อสังเกตุในการพิมพ์สำหรับคีย์ชนิดอื่น : ถ้าเป็นแบบ String Value ค่าที่ใส่มักเป็นตัวอักษร และไม่มีตัวนำหน้า ถ้าเป็นแบบ DWORD Value ใส่ค่าได้ทั้งแบบ Hexadecimal และ Decimal จะมีตัวนำหน้าค่าที่ใส่ว่า Dword หรับ Binary Value ก็คือ Hex เป็นต้น) ส่วนต่อไปก็จะเป็นการสร้างไฟล์ Html เพื่อเขียนสคริปต์ให้สามารถใช้ได้ เปิด Notepad พิมพ์แล้วเซฟไว้ที่ C:\WINDOWS\WEB โดยเลือกในช่อง Type เป็น All Files ตั้งชื่อเป็น highlight.html ** อันนี้ไม่ขออธิบายละกัน เกรงว่ามันจะยาวไป เอาเท่าที่ควรรู้ละกัน ตรงบรรทัดส่วนท้ายที่คำว่า "YELLOW" จะหมายถึงสีของข้อความที่ต้องการทำ Highlight สามารถเปลี่ยนเป็นสีที่ต้องการได้ เช่น "RED" ก็จะเป็นสีแดง ถ้าต้องการแดงเข้ม-อ่อน ก็ใส่เป็นโค๊ด เช่น "#FF4040" = แดงส้ม , "#CD3700" = น้ำตาลแดง เป็นต้น จากนั้นดับเบิลคลิกไฟล์ Highlight.reg ที่สร้างขึ้น ตอบ Yes วิธีใช้งานและตัวอย่าง ลากเมาส์คลุมข้อความที่ต้องการทำ Highlight แล้วคลิกขวาบนข้อความ ก็จะมีเมนูปรากฎดังรูปตัวอย่างการทำ Highlight ด้วยสีต่างๆข้อความลิงค์ก็ทำได้ แต่การคลิกขวาให้ขึ้นเมนู Highlight ค่อนข้างลำบาก ให้เลี่ยงไปใช้ปุ่มเรียกเมนูที่อยู่ระหว่างปุ่ม Ctrl กับ ปุ่มรูปธง (อยู่ใต้ปุ่ม Shift ด้านขวา) ก็จะทำ Highlight ข้อความลิงค์ได้ ดังรูปการย่อ-ขยายรูปบนเวบเพจ เปิด Notepad พิมพ์ REGEDIT4 [HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Internet Explorer\MenuExt\Zoom &In] @="C:\\WINDOWS\\WEB\\zoomin.htm" "contexts"=hex:02 แล้วเซฟโดยเลือกในช่อง Type เป็น All Files ตั้งชื่ออะไรก็ได้ *.reg เช่น ZoomIn.reg เปิด Notepad พิมพ์แล้วเซฟไว้ที่ C:\WINDOWS\WEB โดยเลือกในช่อง Type เป็น All Files ตั้งชื่อเป็น zoomin.html จากนั้นดับเบิลคลิกไฟล์ ZoomIn.reg ที่สร้างขึ้น ตอบ Yes เปิด Notepad พิมพ์ REGEDIT4 [HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Internet Explorer\MenuExt\Zoom O&ut] @="C:\\WINDOWS\\WEB\\zoomout.htm" "contexts"=hex:02 แล้วเซฟโดยเลือกในช่อง Type เป็น All Files ตั้งชื่ออะไรก็ได้ *.reg เช่น ZoomOut.regเปิด Notepad พิมพ์แล้วเซฟไว้ที่ C:\WINDOWS\WEB โดยเลือกในช่อง Type เป็น All Files ตั้งชื่อเป็น zoomout.html จากนั้นดับเบิลคลิกไฟล์ ZoomOut.reg ที่สร้างขึ้น ตอบ Yes วิธีการใช้งานคลิกขวาบนรูปภาพ จะมีตัวเลือกดังรูป ก็เลือกย่อ-ขยายดูตามต้องการได้เลยการหาด้วย Google อย่างรวดเร็ว เปิด Notepad พิมพ์ REGEDIT4 [HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Internet Explorer\MenuExt\&Web Search] @="C:\\WINDOWS\\WEB\\selsearch.htm" "contexts"=hex:10 แล้วเซฟโดยเลือกในช่อง Type เป็น All Files ตั้งชื่ออะไรก็ได้ *.reg เช่น search.reg เปิด Notepad พิมพ์แล้วเซฟไว้ที่ C:\WINDOWS\WEB โดยเลือกในช่อง Type เป็น All Files ตั้งชื่อเป็น selsearch.html จากนั้นดับเบิลคลิกไฟล์ search.reg ที่สร้างขึ้น ตอบ Yes ** ถ้าต้องการหาด้วยตัวอื่น ก็ให้เปลี่ยนตรง http://www.google.com/search?q เป็น http://search.yahoo.com/search?p ของ Yahoo http://www.siamguru.com/cgi-bin/search?q ของ Siamguru วิธีใช้ลากเมาส์คลุมข้อความที่ต้องการหาด้วย Google คลิกขวาเลือก Web Search ก็จะเปิดหน้าต่างใหม่พร้อมแสดงผลการค้นหาแสดงลิงค์ URL และ ลิงค์รูปภาพตัวอย่างการเลือก Images List จากหน้าแรกของบอร์ดเปิด Notepad พิมพ์ REGEDIT4[HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Internet Explorer\MenuExt\I&mages List]@="C:\\WINDOWS\\Web\\imglist.htm""contexts"=hex:01แล้วเซฟโดยเลือกในช่อง Type เป็น All Files ตั้งชื่ออะไรก็ได้ *.reg เช่น ImageList.reg เปิด Notepad พิมพ์แล้วเซฟไว้ที่ C:\WINDOWS\WEB โดยเลือกในช่อง Type เป็น All Files ตั้งชื่อเป็น imglist.html จากนั้นดับเบิลคลิกไฟล์ ImageList.reg ที่สร้างขึ้น ตอบ Yesตัวอย่างการเลือก Link List จากเวบ http://softoroom.com/เปิด Notepad พิมพ์REGEDIT4[HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Internet Explorer\MenuExt\&Links List]@="C:\\WINDOWS\\WEB\\urllist.htm""contexts"=hex:01แล้วเซฟโดยเลือกในช่อง Type เป็น All Files ตั้งชื่ออะไรก็ได้ *.reg เช่น LinkList.reg เปิด Notepad พิมพ์แล้วเซฟไว้ที่ C:\WINDOWS\WEB โดยเลือกในช่อง Type เป็น All Files ตั้งชื่อเป็น urllist.html จากนั้นดับเบิลคลิกไฟล์ LinkList.reg ที่สร้างขึ้น ตอบ Yes

13 เมษายน 2547

คำอธิบายรายวิชา

คำอธิบายรายวิชา
คำอธิบายรายวิชา ความหมาย และวิวัฒนาการของระบบปฏิบัติการ บทบาท หน้าที่ของระบบปฏิบัติการ การจ่ายงานหรือการจัดสรรหน่วยประมวลผล การบริหาร และการจัดการหน่วยความจำ การจัดคิวงานและการจัดสรรทรัพยากร การจัดการข้อมูลและการแสดงผลระบบแฟ้ม การควบคุม การคืนสู่สภาพเดิม

วันจันทร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

คำสั่ง dos

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับ DOS
DOS = Disk Operating System
แฟ้มข้อมูลและการตั้งชื่อแฟ้มข้อมูล (File and File Names)
ในการตั้งชื่อแฟ้มข้อมูล DOS จะยินยอมให้ตั้งได้ไม่เกิน 8 ตัวอักษร ซึ่งอาจจะเป็นตัวเลข หรือพยัญชนะ หรือทั้งสองอย่างปนกันก็ได้ แต่ในการตั้งชื่อแฟ้มข้อมูล ห้ามใช้สัญลักษณ์ต่อไปนี้ คือ
* ? . \ " / [ ] : – < > + = ; ,
ในชื่อไฟล์จะต้องไม่มีที่ว่างอยู่ในชื่อ
ในชื่อแฟ้มข้อมูลควรจะมีส่วนขยาย (extension) ด้วย เพื่อใช้บอกชนิดของแฟ้มข้อมูลนั้นๆ
ซึ่งส่วนขยายนี้ อาจจะมี 1 หรือ 2 หรือ 3 ตัวอักษรก็ได้ แต่ไม่เกิน 3 ตัวอักษร
เวลาตั้งชื่อแฟ้มข้อมูล ก็ให้ใส่ . (จุด) คั่นระหว่างชื่อแฟ้มข้อมูลและส่วนขยาย ดังตัวอย่าง
TEXT.BAK 90PRICES.WK1 LETTER.DOC CUSTOMER.DBF AUTOEXEC.BAT COMMAND.COM CUPRINT.EXE
ชนิดของคำสั่ง DOS
คำสั่งของ DOS มี 2 ประเภท คือ
1. คำสั่งภายใน (Internal Command) เป็นคำสั่งซึ่งจะถูกอ่านเข้ามาในเครื่องคอมพิวเตอร์ เมื่อ DOS ถูก Loaded เข้ามา คำสั่งเหล่านี้จะจะทำงานได้ทันทีโดยไม่ต้องมีไฟล์อยู่ คำสั่งภายใน ได้แก่
DIR , COPY , DELETE , REN , TYPE , MD , CD , RD , CLS , DATE , TIME , VER
2. คำสั่งภายนอก (External Command) คำสั่งเหล่านี้จะต้องมีโปรแกรมอยู่ในดิสก์ เมื่อคำสั่งถูกเรียกใช้งาน DOS จะทำการค้นหาบนแผ่นดิสก์และอ่านคำสั่งเข้าไปในหน่วยความจำแล้วจึงทำงาน คำสั่ง
ภายนอก ได้แก่
CHKDSK, DISKCOPY, FORMAT, UNFORMAT, RESTORE, LABEL, UNDELETE เป็นต้น
ถ้าผู้ใช้สั่งงาน โดยใช้คำสั่งที่ไม่มีใน DOS หรือพิมพ์คำสั่งผิด เครื่องจะบอกว่า
BAD COMMAND OR FILENAME
การใช้คำสั่งเดิม ( Repeat Commands ) ผู้ใช้สามารถเรียกคำสั่งที่เพิ่งสั่งให้เครื่องทำงานล่าสุด มาใช้
ได้อีกอย่างรวดเร็ว โดยใช้คีย์พิเศษ ดังนี้
[F3] = เรียกคำสั่งล่าสุดมาทั้งหมด
[F1] = เรียกคำสั่งล่าสุดมาทีละ 1 ตัวอักษร
การใช้ WILD CARD CHARACTERS
เป็นสัญลักษณ์ที่สามารถใช้แทนชื่อไฟล์ได้ในคำสั่ง DOS ได้แก่
? - ใช้แทนตัวอักษรใดๆก็ได้ 1 ตัว ที่อยู่ในตำแหน่งนั้น ของชื่อไฟล์ หรือส่วนขยาย
* - ใช้แทนจำนวนตัวอักษรทั้งหมด ในชื่อไฟล์ หรือส่วนขยาย
DOS COMMAND
ก. คำสั่งภายใน (Internals Command หรือ RAM-Resident)
คำสั่งเหล่านี้จะรวมอยู่ในไฟล์ที่ชื่อ COMMAND.COM ซึ่งจะถูกเรียก (loaded) เข้าสู่หน่วยความจำ RAM ของเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกครั้งที่เปิดเครื่องครั้งแรก (หรือเรียกว่า Boot เครื่อง) ด้วย DOS
คำสั่งที่จัดว่าเป็นคำสั่งภายใน ได้แก่
1. DIR
หน้าที่ เป็นคำสั่งที่ใช้สำหรับแสดงรายชื่อไฟล์ที่มีอยู่ในดิสก์ ออกทางจอภาพ ดังตัวอย่าง
C:\>DIR สั่งให้เครื่องแสดงไฟล์ทั้งหมดจากแผ่นในไดรว์ C:
C:\>DIR D: สั่งให้เครื่องแสดงไฟล์ทั้งหมดจากแผ่นในไดรว์ D:
C:\>DIR/P  สั่งให้เครื่องแสดงทีละหน้า (Page) แล้วหยุดรอ จนกว่าจะมีการกดคีย์ใดๆ
C:\>DIR/W  สั่งให้เครื่องแสดงชื่อไฟล์บรรทัดละ 5 ไฟล์ (wide)
C:\>DIR *.EXE  แสดงทุกไฟล์ที่มีส่วนขยาย (หรือ นามสกุล) เป็น EXE
C:\>DIR S*.*  แสดงทุกไฟล์ที่ชื่อขึ้นต้นด้วยอักษร S นามสกุลอะไรก็ได้
C:\>DIR A*.*  แสดงทุกไฟล์ ที่ชื่อขึ้นต้นด้วยอักษร A นามสกุลอะไรก็ได้
2. COPY
หน้าที่ ทำการคัดลอกไฟล์ 1 ไฟล์ หรือมากกว่าไปยังแผ่นดิสก์แผ่นเดียวกัน หรือแผ่นอื่น
ตัวอย่าง
C:\>copy test.txt D: 
หมายถึง คัดลอกไฟล์ชื่อ test.txt จาก C: ไปไว้ที่ D: โดยใช้ชื่อเดิม
C:\>copy test.txt A:final.txt 
หมายถึง คัดลอกไฟล์ชื่อ test.txt จาก C: ไปไว้ที่ A: โดยให้เปลี่ยนชื่อเป็น final.txt
C:\>copy test1.txt final.txt 
หมายถึง คัดลอกไฟล์ชื่อ test1.txt ไปยังไฟล์ชื่อ final.txt และเก็บไว้ในแผ่นเดียวกัน คือแผ่น C:
C:\>copy cw.bat prn: 
หมายถึง การคัดลอกไฟล์ cw.bat ไปออกทางเครื่องพิมพ์
C:\>copy A:s*.* 
หมายถึง การคัดลอกไฟล์ทุกไฟล์ที่ขึ้นต้นด้วยอักษร S ใน drive A: มาไว้ใน drive C:
3. DELETE
หน้าที่ ลบไฟล์ หรือโปรแกรมออกจากแผ่นดิสก์ บางครั้งมีไฟล์หรือโปรแกรมที่ไม่ต้องการแล้ว ถ้าต้องการให้มีเนื้อที่ว่างในแผ่นดิสก์ ก็สามารถลบออกโดยคำสั่งนี้ ดังตัวอย่าง
C:\>del A:basic.com 
หมายถึง ให้ลบไฟล์ชื่อ basic.com ใน drive A:
C:\>del qbasic.com 
หมายถึง ให้ลบไฟล์ชื่อ qbasic.com ใน drive C:
C:\>del A:*.exe 
หมายถึง ให้ลบไฟล์ใน drive A: ทุกไฟล์ที่มีส่วนขยาย (นามสกุล) เป็น exe
C:\>del f*.* 
หมายถึง ให้ลบไฟล์ที่ขึ้นต้นด้วยอักษร F ทุกไฟล์
C:\>del B:*.* 
หมายถึง ให้ลบไฟล์ทุกไฟล์ที่มีอยู่ใน drive B: ออกให้หมด เมื่อมีการใช้คำสั่งนี้ เครื่องจะปรากฏ
คำถาม ดังนี้ Are you sure (y/n)? ถ้าต้องการลบก็กด Y แต่ถ้าไม่ต้องการให้กด N
ก่อน ใช้คำสั่งนี้ต้องแน่ใจว่า เราสั่งถูกต้องแล้ว เพราะถ้าสั่งผิดข้อมูลจะถูกลบ หมด
4. REN (Rename)
หน้าที่ ทำการเปลี่ยนชื่อไฟล์ให้เป็นชื่อใหม่ ดังตัวอย่าง
C:\>ren old.exe new.com 
หมายถึง ให้เปลี่ยนชื่อไฟล์ จากชื่อ old.exe เป็น new.com
5. MD (Make Directory)
หน้าที่ สร้าง Sub directory ขึ้นมาใหม่ เพื่อเก็บข้อมูลที่เป็นเฉพาะอย่าง เช่น ต้องการจะสร้าง
Subdirectory สำหรับเก็บข้อมูลไว้ชั่วคราว ชื่อ TEMPO ก็สามารถจะสร้างดังนี้
C:\>md tempo 
6. CD (Change Directory)
หน้าที่ เปลี่ยนเข้าไปยัง Sub directory ที่ต้องการ หรือออกจาก sub directory มายัง Root
Directory เช่น ถ้าเราต้องการจะเข้าไปใน Sub directory ชื่อ TEMPO ก็สั่ง
C:\>cd\tempo 
หน้าจอก็จะปรากฏ
C:\TEMPO>
ถ้าต้องการจะออกจาก Sub directory ชื่อ TEMPO มายัง Root directory ก็สั่ง
C:\TEMPO>cd\ 
7. RD (Remove Directory)
หน้าที่ ลบ Sub directory ที่ไม่ต้องการแล้ว แต่การจะใช้คำสั่งนี้ได้ จะต้องแน่ใจว่าภายใน
Sub directory ที่จะลบ จะต้องไม่มีไฟล์หรือข้อมูลใดๆเหลืออยู่ เช่น สมมติว่า เราต้องการจะลบ
Sub directory ชื่อ TEMPO ก่อนอื่นเราจะต้องเข้าไปใน Sub directory นี้เสียก่อน แล้วทำการลบไฟล์
ทุกๆไฟล์ที่มีอยู่ออกให้หมด แล้วกลับออกมาที่ Root directory จากนั้นจึงจะใช้คำสั่ง RD นี้ได้ ดังนี้
C:\>rd tempo 
8. CLS (Clear Screen)
หน้าที่ ลบหน้าจอ เมื่อใช้คำสั่งนี้ หน้าจอจะว่าง เหลือเฉพาะ C:\> (ถ้าขณะนั้นเครื่องทำงานอยู่
ที่ drive C:) การใช้คำสั่งใช้ดังนี้
C:\>cls 
9. DATE
หน้าที่ ใช้สำหรับกำหนด วัน เดือน ปี ที่เป็นปัจจุบันไว้ในหน่วยความจำของเครื่อง
C:\>DATE 
หน้าจอจะปรากฏข้อความ
Current Date Friday 01-05-1996
Enter new Date (mm-dd-yy)
ให้ใส่ เดือน วันที่ และปี ค.ศ. ที่ต้องการเปลี่ยนตามรูปแบบ แล้วกด Enter แต่ถ้าไม่ต้องการเปลี่ยน ก็
ให้กด Enter ผ่าน
10. TIME
หน้าที่ เป็นคำสั่งสำหรับใช้กำหนดเวลาที่เป็นปัจจุบันก่อนการทำงาน ซึ่งจะทำให้เราทราบได้ว่า การ
แก้ไขข้อมูลครั้งล่าสุดได้กระทำเมื่อไร
C:\>TIME 
หน้าจอจะปรากฏข้อความ
Current Date Friday 01-05-1996
Enter new Date (mm-dd-yy)
Current Time is 00:45:50
Enter new time (hh:mm:ss)
ให้ทำการป้อนเวลาปัจจุบันตามแบบฟอร์ม เสร็จแล้วกด Enter แต่ถ้าไม่ต้องการเปลี่ยนเวลาก็กด Enter
ผ่าน ซึ่งหน้าจอก็จะปรากฏเครื่องหมาย C:\>
11. VER
หน้าที่ ใช้สำหรับตรวจสอบดูว่า DOS ที่เราใช้อยู่เป็นรุ่นอะไร โดยการสั่ง
C:\>VER 
หน้าจอจะปรากฏข้อความว่า MS-DOS VERSION 6.22
12. TYPE
หน้าที่ ใช้สำหรับดูข้อมูลที่อยู่ในไฟล์ประเภท text file เช่นไฟล์ที่มีส่วนขยายเป็น .txt ,
.doc, .bat , .sys ดังนี้
C:\>TYPE AUTOEXEC.BAT 
หมายถึง ให้แสดงข้อมูลที่อยู่ในไฟล์ autoexec.bat ออกทางหน้าจอ
C:\>TYPE CONFIG.SYS > PRN:
หมายถึง ให้แสดงข้อมูลในไฟล์ config.sys ออกทางเครื่องพิมพ์ (พิมพ์ออกกระดาษ)
ข. คำสั่งภายนอก( External Commands)
คำสั่งเหล่านี้จะถูกเก็บไว้เป็นโปรแกรมบนแผ่นดิสก์ ไม่รวมอยู่ในไฟล์ COMMAND.COM จะทำงานเมื่อถูกเรียกใช้ คำสั่งที่จัดเป็นคำสั่งภายนอก ได้แก่
1. CHKDSK
2. DISKCOPY
3. FORMAT
แผ่นดิสก์ที่ซื้อมาใหม่นั้น จะคล้ายคลึงกับตึกที่ถูกสร้างเสร็จใหม่ๆ มีลักษณะเป็นเนื้อที่โล่งกว้าง ซึ่งถ้าเราจะทำเป็นสำนักงาน ก็ต้องมีการกั้นเป็นห้องๆสำหรับใช้งานตามวัตถุประสงค์ต่างๆ เช่น ห้องผู้จัดการห้องธุระการ เป็นต้น ซึ่งแผ่นดิสก์เปล่าที่วางขายทั่วไป ก็อยู่ในลักษณะเดียวกันคือ ยังคงเป็นเนื้อที่ว่างๆ ที่ยังไม่มีการจัดแบ่งเป็นห้องใดๆเลย ดังนั้น สิ่งแรกที่จะต้องทำกับแผ่นดิสก์เหล่านี้ก่อนที่จะนำมาใช้งานก็คือ การเตรียมแผ่นให้พร้อมที่จะเก็บข้อมูลเสียก่อน โดยวิธีการที่เรียกว่า การฟอร์แมตแผ่น (Disk Formatting) การฟอร์แมตจะเป็นวิธีการที่แบ่งเนื้อที่ในแผ่นดิสก์ออกเป็นส่วนๆในลักษณะที่เป็นวงๆ จากขอบนอกสุดของแผ่น ไปจนถึงขอบในสุด แต่ละวงนี้เรียกว่า แทรค (TRACK) โดยในแต่ละแทรคก็จะถูกแบ่งออกเป็นห้องย่อยๆ เรียกว่า เซคเตอร์ (SECTOR) ซึ่งแต่ละเซคเตอร์นี้เอง ที่จะใช้เป็นที่เก็บข้อมูล การฟอร์แมตแผ่นโดยใช้คำสั่ง FORMAT นั้น นอกจากจะใช้เตรียมแผ่นที่ซื้อมาใหม่แล้ว ยังใช้กับแผ่นที่ใช้งานเก่าได้ด้วย ซึ่งในกรณีที่นำแผ่นเก่ามาฟอร์แมตใหม่ ก็จะเป็นการลบล้างทุกสิ่งทุกอย่างที่ถูกเก็บอยู่แต่เดิมในแผ่นออกไปด้วย ดังตัวอย่าง
C:\>FORMAT A:  สั่งให้เครื่องทำการฟอร์แมตแผ่น A
C:\>FORMAT A:/S  ฟอร์แมตแผ่น A แล้วบันทึก DOS ลงไปด้วย
C:\>FORMAT B:/V  ฟอร์แมตแผ่น A และตั้งชื่อแผ่น (Volume Label)

วันพุธที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2551

ระบบปฏิบัติการ 1

http://cptd.chandra.ac.th/learns.htm
จากมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม รวมหลายวิชาน่าสนใจhttp://cptd.chandra.ac.th/selfstud/it4life/index.htm
เทคโนโลยีสาระสนเทศ จากมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษมhttp://cptd.chandra.ac.th/selfstud/Dbsystem/index.htm
ะบบการจัดการฐานข้อมูล
http://yalor.yru.ac.th/~pimonpun/4121401-OS/4121401Les-1.htm
จากมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา
http://www.rmuti.ac.th/~nopparat/document/lab-tc/ex3-1.pdf
dos
http://cptd.chandra.ac.th/selfstud/os1/index.html
บทเรียนออนไลน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันเกษม
http://cptd.chandra.ac.th/learn.htm
บทเรียนออนไลน์ จากมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม
http://cptd.chandra.ac.th/rawin/os1.htm
ระบบปฏิบัติการ 1 ม.ราชภัฏจันทรเกษม
http://ict.moph.go.th/elearning/it_link/IT.html
สาระสนเทศและการสื่อสาร
http://yalor.yru.ac.th/~pimonpun/4121401-OS/os1-6.htm
ม.ราชภัฏยะลา ความรู้ทั่วไป

วันอังคารที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2551

"HEX,Binary and ASCII"

PUTCHAREE YOTHA
P = 50 = 01010000
U = 55 = 01010101

T = 54 = 01010100
C = 43 = 01000011
H = 48 = 01001000
A = 41 = 01000001
R = 52 = 01010010
E = 45 = 01000101
E = 45 = 01000101


Y = 59 = 01011001
O = 4F = 01001111
T = 54 = 01010100
H =48 = 01001000
A = 41 = 01000001


เลขฐาน 16 ใช้ตัวย่อ HEX
นับเริ่ม 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 A B C D E F
เลขฐาน 2 ใช้ตัวย่อ Bit ประกอบ 0 1
การแปลงจากเลขฐาน 16 เป็นเลขฐาน 2
0 = 0000
1 = 0001
2 = 0010
3 = 0011
4 = 0100
5 = 0101
6 = 0110
7 = 0111
8 = 1000
9 = 1001
A = 1010
B = 1011
C = 1100
D = 1101
E = 1110
F = 1111

ตัวอย่าง A9 =10101001
7A =01111010

แปลงเลขฐาน16 เป็นเลขฐาน10
128 62 32 16 8 4 2 1
ตัวอย่าง
A9 = 10101001

128+32+2+1=169


รหัส SSCII
A = 41 = 01000001
B = 42 = 01000010
C = 43 = 01000011

D = 44 = 01000100
E = 45 = 01000101
F = 46 = 01000110
G = 47 = 01000111
H = 48 = 01001000
I = 49 = 01001001
J = 4A = 01001010
K = 4B = 01001011
L = 4C = 01001100
M = 4D = 01001101
N = 4E = 01001110
O = 4F = 01001111
P = 50 = 01010000
Q = 51 = 01010001
R = 52 = 01010010
S = 53 = 01010011
T = 54 = 01010100
U = 55 = 01010101
V = 56 = 01010110
W = 57 = 01010111
X = 58 = 01011000
Y = 59 = 01011001
Z = 5A = 01011010


แนะนำตัวเอง

ชื่อ นางสาว พัชรี โยธา เรียกสั้นว่า เนียง
โปรแกรม คอมพิวเตอร์ธุรกิจ ปี 1
รหัสนักศึกษา 5112407103
เบอร์ 084-8340346
เพื่อนสนิท นางสาว ศิริรัตน์ ลักขะณา เบอร์ 080-4059964
นางสาว ณัฐพร บุญรักษา เบอร์085-3077653